ไวรัสโคโรนา หรือ Covid-19 ส่งผลกระทบอย่างมากในการทำงานของโรงงานปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่หลายฝ่ายต่างมีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อคอยช่วยเหลือ ตั้งแต่พนักงานในโรงงานจนถึงการบริหารงานในโรงงาน เพื่อให้การทำงานทั้งหมดสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นที่สุด โดยมีความปลอดภัยของพนักงานเป็นทีหนึ่ง
แน่นอนว่าภายใต้วิกฤตนับว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าจับตาแล้ว แต่หลังสถานการณ์ไวรัสโคโรนาที่คาดกันว่าการแข่งขันกันระหว่างโรงงานต่างๆ จะเพิ่มสูงขึ้นไปอีก จะมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใดที่เข้ามามีบทบาทบ้าง เพื่อให้การผลิตและการทำงานของแต่ละโรงงานเป็นที่สุด และเราจะสานต่อมันได้อย่างไร
นวัตกรรมและเทคโนโลยีภายในโรงงานภายใต้วิกฤต
ก่อนอื่นเราอาจต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า นวัตกรรม คือสิ่งที่เรามีการคิดค้นขึ้นมาใหม่หรือการปรับปรุงของเดิมให้ดีขึ้นเพื่อแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ ระบบ หรือแม้กระทั่งวิธีการคิดใหม่ๆ ก็ตาม
โดยนวัตกรรมหลายๆ อย่างที่อาจปรากฎขึ้นภายในโรงงานนั้นบ้างอาจดูเรียบง่ายจนคนมองข้ามไป บ้างก็ดูหรูหรา ไฮเทคจนเตะตา ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ดังต่อไปนี้
การเข้างาน
การตอกบัตรหรือการสแกนนิ้วอาจเป็นวิธีที่คุ้นชินสำหรับคนในโรงงานทั่วไป แต่ในเมื่อมันมีความเสี่ยงในการนำพาเชื้อโรค นวัตกรรมใหม่ๆ จึงถูกนำเข้ามาแทนที่ เช่น
การเช็คอินเข้างานด้วยแอปพลิเคชั่น
นวัตกรรมการเช็คอินด้วยแอปพลิเคชั่นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ช่วงที่ไวรัสโคโรนาระบาดทำให้ทุกคนต้องเลี่ยงการสัมผัส ทำให้เทคโนโลยีดังกล่าวได้กลับเข้ามาได้รับความสนใจอีกครั้ง ทั้งในรูปแบบของแอปพลิเคชั่นแยกที่สร้างใหม่สำหรับบริษัทนั้นๆ หรือเป็นส่วนเสริมสำหรับโปรแกรมการจัดการบุคลากร
แม้ว่าช่วงเวลาของไวรัสโคโรนาจะผ่านพ้นไป แต่เชื่อได้ว่าหลังจากนี้ก็มีโอกาสที่โรงงานหรือบริษัทมากมายจะใช้แอปพลิเคชั่นเพื่อช่วยในการเช็คอินเข้างาน ที่นอกจากจะมีความแม่นยำแล้ว ยังช่วยให้ไม่เสี่ยงต่อโรคติด่ออีกด้วย
ตรวจสอบการเข้างานด้วย Face Recognition
เหนือไปกว่าการใช้แอปช่วยคือการตรวจเข้างานด้วย Face Recognition หรือการใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า ที่ในตอนนี้หลายโรงงานได้มีการติดตั้งกล้องเพื่อช่วยในการตรวจสอบการเข้างาน ที่นอกจากจะช่วยให้รับรู้ว่าพนักงานเข้ามาตอนไหนแล้ว ยังสามารถเช็คได้อีกว่าคนเหล่านี้อยู่ส่วนไหนในโรงงานบ้าง เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
การฆ่าเชื้อโรค
หุ่นยนต์พ่นยาฆ่าเชื้อโรค
สำหรับห้องฆ่าเชื้อโรคหรือบ่อน้ำที่ใส่น้ำยาฆ่าเชื้ออาจเป็นสิ่งปกติสำหรับบางโรงงานแต่คงไม่ใช่กับเจ้าหุ่นยนต์พ่นยาฆ่าเชื้อ ที่มีหน้าที่พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามจุดต่างๆ ของโรงงานเพื่อความสะดวกและปลอดภัย ไม่ต้องใช้แรงมนุษย์ในการทำงานและเสี่ยงกับไวรัสโคโรนา
การปรับใช้เทคโนโลยี Automation และ IoT
สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดจากช่วงไวรัสโคโรนาระบาด คือการที่พนักงานบางส่วนในโรงงานไม่สามารถเข้ามาทำงานได้ ทั้งจากเหตุผลด้านความปลอดภัยและมาตรการจากภาครัฐ เรื่องนี้ทำให้การใช้เทคโนโลยี Automation ในโรงงานเป็นเรื่องที่จำเป็นขึ้นมาทันที
เพราะถ้าเรามีเทคโนโลยี Automation และ IoT รวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ คอยซัพพอร์ตอย่างสมบูรณ์ ฝ่ายพนักงานที่ทำงานแทบจะไม่ต้องออกจากบ้านหรือบริษัทเลย สิ่งที่ทำเพียงแค่การควบคุมจากระยะไกล และมีการเช็คสภาพแบบนานๆ ครั้งเท่านั้น ช่วยในการลดความเสี่ยงด้านไวรัสโคโรนาได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นพนักงานระดับไหนก็ตาม
อีกทั้งเทคโนโลยีดังกล่าวยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการทำงาน ทำให้การทำงานไหลลื่น ไม่มีสะดุดแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่วิกฤต สามารถเชื่อได้เลยว่าหากหมดช่วงเวลาของไวรัสโคโรนาไป เทคโนโลยี Automation จะกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ในอนาคต
จากรับมือสู่การพัฒนาที่ดีกว่าภายในโรงงานหลังไวรัสโคโรนา
การจัดการช่วง Covid-19 ถือเป็นวิกฤตที่สำคัญยากจะมองข้ามแต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นการวัดความสามารถในการจัดการปัญหาของแต่ละโรงงาน และเปิดโอกาสให้ทางโรงงานสามารถใช้ช่องทางใหม่ๆ ในการทำงานได้
ถ้าหากเทคโนโลยหรือนวัตกรรมใหม่ๆ นั้นทำให้โรงงานดีขึ้น ก็สมควรเป็นอย่างยิ่งที่พิจารณาในการใช้งานและการลงทุนเพิ่มเติมในระยะยาวน โดยเฉพาะในด้านของการผลิต ระบบอัตโนมัติ และการเก็บข้อมูลในโรงงาน ที่เห็นได้ชัดว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเหมาะกับการใช้พัฒนาโรงงานในอนาคต
สิ่งที่ลืมไปไม่ได้เลยการจัดการที่ดีและการวางแผนที่เหมาะสม เพราะหลายต่อหลายโรงงานมีการติดตั้งระบบต่างๆ ด้วยความเร่งรีบ การย้อนกลับไปดูช่องโหว่และความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ รวมไปถึงการพิจารณอัปเกรดอุปกรณ์หรือเครื่องจักรต่างๆ รวมถึงการบำรุงรักษาสิ่งของในโรงงานที่อาจถูกละเลยช่วงวิกฤตไวรัสก็ด้วยเช่นกัน
สรุปบทความ
นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ใช้งานในโรงงานหลังไวรัสโคโรนามีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัย การบริหารจัดการข้อมูล และการใช้งาน Automation และ IoT แต่ภายใต้การทำงานนั้นจำเป็นจะต้องมีการจัดการที่เหมาะสม เพื่อทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเทคโนโลยีที่เราติดตั้งลงไปเกิดประโยชน์สูงสุดให้กับการผลิต
Factory Automation Solution จึงกลายเป็นอีกส่วนหนึงในการจัดการระบบของโรงงาน ทั้งการอัปเกรด ปรับปรุง รวมไปถึงการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ เพื่อให้นวัตกรรมและเทคโนโลยีหลังสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสามารถดำเนินงานต่อไปได้ และมีการทำงานที่ดีกว่าเดิม คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป
บริการด้านเครื่องจักรจากสุมิพล
สุมิพลให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเครื่องจักรอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับกระบวนการผลิตชิ้นงาน การออกแบบระบบการผลิตไปถึงการจัดการคลังสินค้าอย่างมีคุณภาพ ด้วยบุคลากรคุณภาพ อุปกรณ์อัตโนมัติที่ทันสมัยและโปรแกรมในการออกแบบเพื่อการทำงานเสมือนจริงมากที่สุด
ถ้าคุณสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของสินค้าหรือบริการจากเรา คุณสามารถติดต่อเราได้ที่นี่ หรือ Call Center 02-7623000 เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและเครื่องมือที่พร้อมให้บริการกับคุณอย่างเต็มที่
