Safety Switch หรือ เซฟตี้สวิตซ์ คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการเปิดปิดวงจรไฟฟ้า ที่ใช้ในการป้องกันกระแสเกินภายในโรงงานและอาคารต่างๆ นอกจากจะใช้กับไฟฟ้าในอาคารแล้ว ยังสามารถใช้กับเครื่องจักรที่มีการทำงานอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
ขึ้นชื่อว่า Safety แล้ว อุปกรณ์ชนิดนี้ย่อมเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและชีวิต ดังนั้นการเลือกอุปกรณ์ดังกล่าวย่อมมีความสำคัญไม่แพ้การใช้งานอย่างแน่นอน
การเลือก Safety Switch ภายในโรงงาน
1. วัสดุและจุดประสงค์การใช้งานของ Safety Switch
การเลือก Safety Switch (เซฟตี้ สวิทช์) ควรเลือกประเภทที่มีการใช้วัสดุคุณภาพ มีความคงทนต่อแรงกระแทก สภาพอากาศ ฝุ่น น้ำ รวมถึงสามารถทนความร้อนได้ โดยส่วนมากจะใช้เป็นพลาสติก ABS (Acrylonitrile butadiene styrene) หรือสแตนเลส 316 ที่มีความคงทนสูง โดยจะปรับเปลี่ยนวัสดุไปตามแต่จุดประสงค์ของการใช้งาน Safety Switch
สำหรับผู้ประกอบการโรงงานที่มีความเฉพาะทางสูง อาจต้องมีการ “ใส่ใจ” ในจุดนี้มากขึ้น เช่น คนที่ทำโรงงานเกี่ยวกับการผลิตอาหาร อาจต้องคัดสรร Safety Switch ที่มีการใช้วัสดุที่ถูกสุขอนามัยมากกว่าปกติ
2. ปริมาณไฟฟ้าที่ Safety Switch รองรับ
อุปกรณ์เกี่ยวกับไฟฟ้าทุกชนิดจะมีการรองรับกระแสไฟฟ้ากำกับเอาไว้ Safety Switch เองก็เช่นกัน ทั้งเรื่องของกระแสตรงและกระแสสลับ รวมถึงกำลังไฟฟ้าสูงสุดที่ Safety Switch นี้รับได้ก่อนทำการตัดกระแสไฟฟ้า ทางผู้ประกอบการที่ต้องการซื้อควรมีการเช็คการใช้งานไฟฟ้าของโรงงานตนเอง รวมถึงจุดที่ต้องการติดตั้งอุปกรณ์ Safety Switch ว่าต้องการติดตั้งบริเวณใด เพื่อให้ Safety Switch ตรวจสอบและตัดกระแสไฟฟ้าได้กรณีไฟรั่วหรือไฟเกิน
เรื่องของปริมาณกระแสไฟฟ้านี้จะข้องเกี่ยวกับสายไฟด้วยเช่นกัน ขณะติดตั้ง Safety Switch ต้องตรวจสอบประเภทของสายไฟที่เชื่อมต่อ ก่อนทำการใช้งาน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
3. ฟังก์ชั่นอื่นๆ ของ Safety Switch
Safety Switch ในปัจจุบันจะมีการติดตั้งฟังก์ชั่นต่างๆ นอกเหนือจากการตัดกระแสไฟฟ้า เช่นการส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์ต่างๆ เมื่อเกิดสิ่งผิดปกติ เป็นต้น ผู้ที่สนใจควรสอบถามทางร้านค้าก่อนว่ามี Safety Swich หรืออุปกรณ์ร่วมอื่นๆ ที่มีฟังก์ชั่นพิเศษที่ต้องการหรือไม่
4. ความน่าเชื่อถือของผู้จัดจำหน่ายและแบรนด์
ของดีไม่จำเป็นต้องแพงแต่ต้องเป็นของที่ราคาเหมาะสมกับคุณภาพ สาเหตุที่ต้องเน้นย้ำเรื่องนี้เพราะ Safety Switch ในตลาดนั้นมีมากมาย ทว่าไม่ใช่ทุกเจ้าที่จะขายของคุณภาพสมกับราคา และหลายๆ ครั้งของถูกก็นำปัญหามาให้มากกว่าที่คิด
การเลือก Safety Switch จึงต้องมั่นใจว่าผู้จัดจำหน่ายนั้นสามารถเชื่อถือได้ และแบรนด์ที่กำลังจะใช้งานนั้นผลิตงานคุณภาพออกมาจริงๆ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้งาน Safety Switch
- Safety Switch สำหรับการใช้งาน Indoor ไม่ควรนำออกไปติดตั้งภายนอกอาคาร เนื่องจากจะส่งผลต่อคุณภาพและอายุการใช้งานของ Safety Switch เอง
- ควรมีการทดสอบหลังการติดตั้งว่าอุปกรณ์ต่างๆ สามารถทำงานร่วมกันได้ดี เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- การทำ Safety Switch ตกหรือการแกะ Safety Swith อาจก่อให้เกิดความผิดปกติกับอุปกรณดังกล่าวได้ ควรใช้ความระมัดระวังในการติดตั้งและใช้งาน
- อุปกรณ์ทุกชนิดมีอายุการใช้งาน หาก Safety Switch มีอายุการใช้งานนานเกินไป ควรมีการตรวจสอบและประเมินคุณภาพว่าสามารถทำงานต่อได้หรือไม่
- การซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ต้องมีการระมัดระวังในส่วนของวัสดุละอุปกรณ์ที่ใช้ซ่อมแซม เนื่องจากอาจก่อให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรจากการใช้งานวัสดุที่ผิดจากเดิมได้
สรุปบทความ
การเลือกอุปกรณ์ Safety Switch สำหรับโรงงาน ควรมีการตรวจสอบปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากตัวโรงงานของคุณ และตัวอุปกรณ์ Safety Switch ว่ามีความเหมาะสมที่จะทำงานในโรงงานหรือไม่ประการใด เพื่อการติดตั้งที่คุ้มค่าและปลอดภัยมากที่สุด
ถ้าคุณมีข้อสงสัยหรือสนใจในเรื่องของ Safety Switch รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการและความปลอดภัยภายในโรงงาน คุณสามารถดูสินค้าที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่ หรือเลือกติดต่อเราได้ที่นี่ ด้วยบริการให้คำปรึกษาจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค เครื่องมือ และเครื่องจักรกลคุณภาพสูง และระบบงานออโตเมชั่น IoT พร้อมให้บริการกับคุณอย่างเต็มที่
บริการด้านโรงงานอุตสาหกรรมจากสุมิพล
สุมิพลให้คำปรึกษาเกี่ยวกับบริการออกแบบระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม การใช้งานอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อความเหมาะสมกับโจทย์การผลิตและงบประมาณของลูกค้า รวมถึงการประกอบติดตั้งเชื่อมการทำงานของเครื่องจักรกล ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เข้ากับระบบควบคุมการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของกระบวนการผลิตให้สูงขึ้น
ถ้าคุณสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของสินค้าหรือบริการจากเรา คุณสามารถติดต่อเราได้ที่นี่ หรือ Call Center 02-7623000 เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและเครื่องมือที่พร้อมให้บริการกับคุณอย่างเต็มที่
