ธุรกิจโรงงานอุตสาหกรรมไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ย่อมต้องการการผลิตคุณภาพสูง ตอบโจทย์การผลิตอย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ แต่รู้หรือไม่ว่า วิธีจัดการคลังสินค้า ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังลดเวลาในการทำงานลงได้อย่างมากอีกด้วย

บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับวิธีจัดการคลังสินค้าเบื้องต้นที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ไปจนถึงข้อควรระวังในการจัดการคลังสินค้ากัน

เสริมการผลิตด้วยการจัดการคลังสินค้า

หลายคนเข้าใจผิดว่าการจัดการคลังสินค้าเป็นเพียงการจัดเรียงสิ่งของแบบง่ายๆ ขอแค่มีพื้นที่เพียงพอจะวางอะไรตรงไหนก็ได้ แต่แท้จริงแล้วไม่ได้จบเพียงเท่านั้น การจัดการการผลิตที่มีคุณภาพจะช่วยในด้านต่างๆ ดังนี้

  • ลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว
  • มีพื้นที่ในโรงงานเหลือเพิ่มขึ้น 
  • ใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า 

เหตุผลเหล่านี้ทำให้บริษัทใหญ่ๆ ในปัจจุบันเน้นให้ความสำคัญกับการจัดการคลังสินค้าเป็นอย่างมาก บางบริษัทก็มีการสร้างหุ่นยนต์ขนย้ายเพื่อจัดการคลังสินค้าของตัวเองโดยเฉพาะ รวมไปถึงประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น หุ่นยนต์ IoT ไปจนถึงระบบ AI เข้ามามีส่วนร่วม 

วิธีจัดการคลังสินค้า

หากคุณเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ต้องการจัดการคลังสินค้าของตัวเองล่ะก็ ควรทำความเข้าใจ 3 ปัจจัยหลัก สำหรับการทำคลังสินค้าเสียก่อน 

ปัจจัยควรรู้ก่อนจัดการคลังสินค้า

  • รู้จักตนเอง

งบประมาณการจัดการสินค้า คลังสินค้า พื้นที่ในโรงงาน ระบบขนส่งสินค้า ระบบจัดการรวมไปถึงระบบไอทีภายใน คือหัวข้อหลักๆ ที่ต้องทำความเข้าใจก่อนดำเนินการจัดการคลังสินค้าของตนเอง 

ผู้ประกอบการหลายรายมุ่งจะจัดการโดยไม่ดูทรัพยากรที่มีอยู่ ทำให้เกิดการใช้พื้นที่หรืองบประมาณสิ้นเปลืองเกินไป ทางที่ดีฝ่ายวางแผนควรมีการปรึกษากับทุกฝ่ายของบริษัทเพื่อจัดสรรงบประมาณในส่วนนี้ได้ดีที่สุด

  • รู้จักวัตถุดิบและสินค้า

แม้ว่าจะไม่ใช่อาหาร แต่ผลิตภัณฑ์หลายอย่างก็ต้องการดูแล ทั้งเรื่องอุณหภูมิ แสงแดด ความชื้น มากน้อยแตกต่างกันออกไป การจัดการที่ผิดเพี้ยนอาจทำให้สินค้าหรือวัตถุดิบนั้นเสื่อมคุณภาพ ใช้งานได้ไม่ตรงตามที่ต้องการ หรือราคาตกได้

  • รู้จักตลาด 

การรู้จักตลาดจะส่งผลต่อเนื่องไปสู่การผลิตที่มีคุณภาพ สินค้าหลายชนิดต้องมีการ “ผลิตล่วงหน้า” มากน้อยตามความต้องการ การที่ฝ่ายการตลาดสามารถคาดการณ์เรื่องเหล่านี้ได้ล่วงหน้า จะช่วยให้ไม่มีการผลิตมากเกินความต้องการ ซึ่งจะก่อให้เกิดการขาดทุนทั้งเวลาและเงินตรา

จัดการคลังสินค้าอย่างเป็นระบบ

  1. จัดหมวดหมู่ ทางที่ดีที่สุดควรมีการกำหนดหมวดหมู่สินค้าและวัตถุดิบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และมีการแบ่งรหัสสินค้าทุกอย่างอย่างชัดเจน จะทำให้ทั้งระบบสามารถจัดการและตรวจสอบได้ง่าย หลังจากนั้นก็ทำการกำหนดโซนสินค้าโดยคำนึงถึงปัจจัยประกอบเป็นหลัก เช่น การแบ่งสินค้าและพื้นที่การทำงานของบุคลากรออกจากกัน หรือการแบ่งสินค้านิยม ไม่นิยม การแบ่งหมวดหมู่ที่มีระเบียบจะส่งผลให้การขนส่งภายในโรงงาน ไปจนถึงนอกโรงงานสามารถทำได้ไหลลื่น ลดอุบ้ติเหตุ ทำให้การจัดการพื้นที่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
  2. กำหนดจำนวนที่เหมาะสม ไม่ว่าจะขายดีเพียงไร แต่อย่าลืมว่าการจัดการคลังสินค้ามีขีดจำกัด ฝ่ายการผลิตควรมี “ลิมิต” ในการผลิต ไม่ทำให้สินค้าล้นคลัง หรือมีการดำเนินการสร้างคลังสินค้าแยกชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบด้านการจัดการและคุณภาพก่อนส่งถึงมือลูกค้า
  3. กำหนดระยะเวลา ทุกอย่างที่สร้างขึ้นมาต้องมีกรอบเวลา การจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการจัดการที่พอดี (Just in Time) ที่หลังออกจากสายพาน ดำเนินการตรวจสอบ จัดส่งได้ทันทีโดยไม่มีอะไรขาดเกิน 
  4. จัดระเบียบความปลอดภัย Safety fisrt คือหลักสากลสำหรับการจัดการที่ผู้ประกอบการทุกท่านรู้ดี การจัดการคลังสินค้าควรคำนึงถึงความปลอดภัยของพนักงาน เช่นไม่มีการจัดเรียงที่สูงเกินไป หรือวางของบางจุดแบบไร้ระเบียบ ซึ่งจะก่อให้เกิดเหตุอันตราย และในบางครั้งก็เกิดการสูญเสียมากกว่าที่คิด 
  5. ตรวจสอบคลังสินค้าเป็นประจำ แม้ว่าจะมีระบบคอมพิวเตอร์ทำให้รับรู้สินค้าแบบเรียลไทม์ แต่ทางผู้ประกอบการเองก็ควรมีการเข้าไปประเมินสินค้าของตัวเอง รวมถึงการจัดการระบบคลังสินค้าด้วย เพราะนอกจากจะเป็นการยืนยันว่าการจัดการคลังสำคัญแล้ว ยังเป็นการตรวจสอบช่องโหว่คลังสินค้า ทำให้มั่นใจได้ว่าการจัดการเป็นไปได้ราบรื่นที่สุด

รูปภายในบทความ การจัดการคลังสินค้า

ข้อควรระวังเมื่อจัดการคลังสินค้า

แม้จะจัดการดีแค่ไหนก็ยังมีข้อควรระวังที่ต้องคำนึงทุกครั้งที่ดำเนินการสร้าง หรือตรวจสอบคลังสินค้า โดยมีหลัก 3 ประการที่ต้องระวังดังนี้ 

  • อุปกรณ์ต้องได้มาตรฐาน เพื่อการจัดการทุกอย่างแบบเรียลไทม์ ไม่ขาดตกบกพร่อง ส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า อย่างน้อยๆ ต้องสามารถทำระบบที่มีคุณภาพ อัพเดทสม่ำเสมอ และมีการจัดการความปลอดภัยที่ดีเพียงพอที่จะไม่ให้ผู้อื่นแทรกแซงได้ง่ายๆ 
  • พนักงานทุกคนเข้าใจความสำคัญ แม้งานบางส่วนจะกินเวลาแต่พนักงานควรเห็นค่าว่าการจัดการคลังสินค้าเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อไม่ให้พนักงานละเลยการทำงานในส่วนนี้ 
  • ต้นทุนการจัดการสอดคล้องกับการใช้งาน ดังเช่นที่บอกข้างต้นว่าควรรู้จักตนเองให้ดี หัวข้อนี้คือการตอกย้ำว่าเรื่องเงินและความคุ้มค่านั้นสำคัญ หากมีสินค้าและรายรับมากก็ควรเพิ่มความจัดการให้มีระบบมากขึ้น หากมีสินค้าน้อยชิ้นและมูลค่าน้อยก็อาจไม่ต้องลงทุนมากนัก เน้นการจัดการที่ดีก็เพียงพอ

สรุปบทความ

จะเห็นได้ว่าวิธีจัดการคลังสินค้านั้น​โดยเนื้อแท้แล้วเป็นการใชัด “หลักการจัดการ” อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง และประยุกต์ใช้เข้ากับโปรแกรมหรือรูปแบบการจัดการอื่นๆ ตามความเหมาะสมของโรงงานอุตสาหกรรมและกิจการ

ถ้าคุณมีข้อสงสัยในการจัดการคลังสินค้า หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ คุณสามารถติดต่อเราได้ที่นี่ ด้วยบริการให้คำปรึกษาจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค เครื่องมือ และเครื่องจักรกลคุณภาพสูง พร้อมให้บริการกับคุณอย่างเต็มที่

บริการด้านเครื่องจักรจากสุมิพล

สุมิพลให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเครื่องจักรอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับกระบวนการผลิตชิ้นงาน รวมไปถึงการจัดการคลังสินค้าและการผลิตอย่างมีคุณภาพ ด้วยบุคลากรคุณภาพ อุปกรณ์อัตโนมัติที่ทันสมัยและโปรแกรมในการออกแบบเพื่อการทำงานเสมือนจริงมากที่สุด 

ถ้าคุณสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของสินค้าหรือบริการจากเรา คุณสามารถติดต่อเราได้ที่นี่ หรือ Call Center 02-7623000 เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและเครื่องมือที่พร้อมให้บริการกับคุณอย่างเต็มที่

Sumipol-ebook-measuring