เจาะลึก Ball Endmill ทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับดอกเอ็นมิลหัวบอล

Ball Endmill ดอกเอ็นมิลรูปทรงพิเศษ ถูกใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตอย่างกว้างขวางในการผลิตชิ้นงานแต่ละชิ้นให้มีความแตกต่าง ทั้งในแง่รูปทรง การใช้งาน ความสวยงาม โดยเฉพาะชิ้นงานที่ต้องการความโค้ง มีรูปทรงซับซ้อน การเลือกดอกเอ็นมิลให้เหมาะสมกับการใช้งาน จึงเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

บทความนี้จะเป็นการทำความเข้าใจ ดอกเอ็นมิลหัวบอล ให้มากขึ้น ทั้งจุดเด่นที่สำคัญ ความแตกต่างจากดอกกัดประเภทอื่นอย่างไร และงานกัดที่ดอกกัดชนิดนี้สามารถทำได้ เพื่อช่วยให้การตัดสินใจเลือกเครื่องมือตัดได้ตรงตามลักษณะงานที่ต้องการและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

เลือกอ่านประเด็นที่สนใจ

▸ ทำความรู้จักกับดอกเอ็นมิล
▸ Ball Nose Endmill คืออะไร ?
▸ ตัวอย่างการกัดและการกลึงชิ้นงานด้วยดอกเอ็นมิลหัวบอล
▸ พารามิเตอร์ที่สำคัญของ ดอกเอ็นมิลหัวบอล
▸ ปัญหาที่พบบ่อยในการผลิตแม่พิมพ์ หรือ ชิ้นส่วนต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ดอกเอ็นมิลหัวบอล
▸ คุณสมบัติที่สำคัญและประโยชน์ของ ดอกเอ็นมิลหัวบอล จาก OSG
▸ การใช้งานดอกเอ็นมิลหัวบอล
▸ สรุป

ทำความรู้จักกับดอกเอ็นมิล

ดอกเอ็นมิล (End Mill) หรือดอกกัด มีหน้าตาคล้ายกับดอกสว่าน เป็นอุปกรณ์ที่สามารถกัดวัสดุได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกัดผิวด้านนอก กัดข้าง กัดพื้นผิวโค้ง (Curved Surface) หรือแม้แต่การเจาะรูในบางกรณี ซึ่งดอกกัดในปัจจุบันมีให้เลือกใช้มากมายตามความเหมาะสมของลักษณะงานกัด 

หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับดอกกัดเพิ่มเติม สามารถอ่านข้อมูลเต็มๆ ได้ที่บทความ 

• ทำความรู้จักกับดอกเอ็นมิลในงานกัดวัสดุ
• ดอกกัดคืออะไร? เหมาะกับงานผลิตประเภทไหนบ้าง

Ball Nose Endmill คืออะไร ?

Ball Nose Endmill มีหลายชื่อเรียกในภาษาไทยทั้งดอกเอ็นมิลบอลโนส  ดอกกัดหัวบอล หรือ ดอกเอ็นมิลปลายมน ใช้ได้กับเครื่องกัดแนวตั้ง (Vertical Machining Center) หรือเครื่องกัดแนวนอน (Horizontal Machining Center)

ดอกเอ็นมิลบอลโนส มีลักษณะเป็นทรงกระบอก รัศมีปลายมีดหรือมุมมน R (Nose Radius) เท่ากับครึ่งหนึ่งของเส้นผ่านศูนย์กลางเครื่องมือ ทำให้การกัดเกิดเส้นโค้งเรียบที่ไม่สามารถทำได้ด้วยดอกกัดหัวตัด

อธิบายง่ายๆ คือ มีปลายโค้งมนแบบครึ่งวงกลม (Ball Radius) และคมตัดที่เป็นทรงโค้งจนสุด ไม่มีมุม (Sharp Corners) เหมือนดอกกัดชนิดอื่น

เหมาะสำหรับงานกัดขอบที่ต้องการความโค้ง การกัดร่องที่ต้องการให้ก้นร่องเป็นทรงโค้ง เช่น งานกัดโมลด์ หรือใช้ ดอกเอ็นมิลหัวบอลที่มีปลายขนาดเล็ก สำหรับงานกัดชิ้นงานที่มีรูปร่างซับซ้อน เช่น งานแกะสลัก

สามารถนำไปใช้งานได้อย่างครอบคลุม เลือกมุมในการกัดชิ้นงานได้ และใช้สำหรับงานแกะสลักภาพสามมิติ งานนูนต่ำ นูนสูง ให้มีความโค้งมนสวยงาม รวมไปถึงการกัดกึ่งละเอียด (Semi-finishing) และการกัดละเอียด (Finishing) ถูกใช้อย่างแพร่หลายในการผลิตเครื่องมือ แม่พิมพ์ และการตัดเฉือนรูปทรงสามมิติที่ซับซ้อน

พารามิเตอร์ที่สำคัญของดอกเอ็นมิลหัวบอล

Cutter Diameter (เส้นผ่านศูนย์กลางคมตัด)

ความกว้างของร่องที่กัดด้วยดอกกัดนั้น วัดจากเส้นผ่านศูนย์กลางคมตัด (Cutter Diameter) นอกจากนี้ยังมีผลจากปริมาณเศษของชิ้นงานที่ถูกกัดออกในระหว่างการกัดข้าง ดังนั้น ก่อนซื้อหรือติดตั้งดอกกัดสำหรับงานตัด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกดอกกัดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่เหมาะสมเพื่อให้ตัดชิ้นงานได้ตรงตามต้องการ

Cutting depth and reach (ความลึกตัดและระยะการตัด )

ความลึกในการตัด หรือ ระยะกินลึก (Depth of cut) ของดอกกัด ถูกกำหนดโดยระยะความยาวคมตัดที่สามารถกัดชิ้นงานได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการจับดอกกัดยาวเกินไป (Overhang) ทำให้แน่ใจถึงความแข็งแรงของดอกกัดและกระบวนการตัดที่แม่นยำ

ปัญหาที่พบบ่อยในการผลิตแม่พิมพ์ หรือ ชิ้นส่วนต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ ดอกเอ็นมิลหัวบอล

1. ปัญหาการกัดงานไม่จบตามกระบวนการ (Process) เนื่องจากอายุการใช้งานของดอกกัดหมดอายุก่อน (Tool Life)  ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนดอกกัดใหม่ เสียเวลาในการตั้งค่าเครื่องมือ (Setup) ดังนั้นควรเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับชิ้นงานให้มากที่สุด 

2. ปัญหาการกัดงานแล้วผิวเป็นคลื่นหรือเป็นเกร็ดปลา เกิดจากการสะท้านขณะกัดชิ้นงาน อาจมาจากการใช้ดอกกัดหรือเงื่อนไขในการกัด (Cutting Condition) ที่ไม่เหมาะสม 

3. ปัญหาชิ้นงานที่มีมุมองศา รูปทรงที่ซับซ้อน และมีความละเอียดสูง ส่วนใหญ่จะพบในอุตสาหกรรมแม่พิพม์ฉีดพลาสติก กรณีนี้หากเลือกดอกกัดที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ต้องเสียเวลามากขึ้น ในการเจียระไนเพื่อให้ได้ผิวสำเร็จ (Finishing) ตามที่ต้องการ

4. ปัญหาดอกกัดที่ใช้แตกบิ่นเกิดจากวัสดุชิ้นงานมีความแข็งสูง ดังนั้นควรเลือกดอกกัดที่เหมาะสมกับความแข็งชิ้นงาน จากวัสดุที่ใช้ผลิตดอกกัด ลักษณะการออกแบบ เทคโนโลยีการเคลือบผิวเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกัดชิ้นงาน

คุณสมบัติที่สำคัญและประโยชน์ของ Ball Nose EndMill จาก OSG

ดอกเอ็นมิลบอลโนส ชนิด 2 ฟัน – AE-BD-H

สำหรับงาน Finish ที่ต้องการความแม่นสูง ใช้กับเหล็กที่มีความแข็งสูง

ดอกเอ็นมิลบอลโนส ชนิด 4 ฟัน – AE-BM-H

ถูกออกแบบให้ใช้ในการกัดงานความเร็วรอบสูง เหมาะสำหรับเหล็กที่มีความแข็งสูง 

ดอกเอ็นมิลบอลโนส คอยาว 2 ฟัน – AE-LNBD-H

สำหรับงาน Finish ทีต้องการความแม่นยำสูง และงาน Deep milling กัดร่องลึก

การใช้งาน Ball Nose EndMill จาก OSG

ดอกเอ็นมิลบอลโนสมีความทนทานสูง พร้อมกับสารเคลือบพื้นผิวที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการกัดวัสดุที่หลากหลาย ตั้งแต่พลาสติก ไททาเนียม และสแตนเลส 

โดยเฉพาะการเคลือบผิวสำหรับงานตัดวัสดุความแข็งสูงด้วย DURORAY COATING (ลิขสิทธิ์เฉพาะของ OSG) จึงมีความเหนียวเกิดการแตกหักยาก ทนต่อการสึกหรอและความร้อนสูง รวมไปถึงลักษณะการออกแบบที่ผสมผสาน 

• คมตัดพร้อมช่องคายเศษที่กว้างขึ้น แบ่งร่องไม่เท่ากัน (อสมมาตร) เพื่อป้องกันการสะท้าน
• มุมรัศมีที่สมบูรณ์สำหรับกระบวนการตัดเฉือนแบบ High Speed Machining ส่งผลให้ได้พื้นผิวที่ดี เรียบขึ้น โดยคมกัดยังคงความคมไว้เป็นเวลานานใช้แรงในการทำงานน้อยลง ไม่ต้องกัดละเอียดซ้ำอีกครั้ง

Ball nose endmill จึงสามารถปรับให้เข้ากับการใช้งานที่หลากหลาย ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น 

• อุตสาหกรรมยานยนต์ (Automobile Industry)
• อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ (Die and Mould)
• อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ (Aerospace Industries)
• การผลิตไฟฟ้า (Power Generation)
• อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ (Medical Equipment Industry)