
สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตในยุค 4.0 เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันกันได้ จำเป็นต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนการดำเนินกิจการและให้ก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพแวดล้อมและเทคโนโลยีโดยเฉพาะการแข่งขันด้านการผลิต ให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพ ผลิตผล และทำกำไรได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และตอบรับกับธุรกิจในปัจจุบัน
โดยหนึ่งในวิธีที่ผู้ผลิตพยายามบรรลุเป้าหมายข้างต้นคือการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัล (Transformation) โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการใช้เทคโนโลยี เข้ากับอุปกรณ์ที่ทันสมัย และอีกสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือการพัฒนาตั้งแต่รากฐาน หรือเรียกว่าการให้การศึกษากับกลุ่มคนก็ได้ ควรมีการจัดการอบรมให้ความรู้แก่เด็กและประชาชน เพื่อสร้างกลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถขึ้นมาให้ได้
การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ในอุตสาหกรรมการผลิต

เทคโนโลยี 5G เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการผลักดันให้เกิดการปฏิวัติของอุตสาหกรรมเข้าสู่ระบบอัตโนมัติ หรือที่เราคุ้นหู้กันว่า “Industry 4.0” โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการผลิต การนำเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์เข้ากับการใช้งานอุปกรณ์ (Internet of Things : IoT) หรือระบบประมวลผลอัตโนมัติ (Artificial Intelligence : AI) ภายในโรงงานอุตสาหกรรม จะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบการผลิต, ระบบการติดตามเครื่องมือและอุปกรณ์ภายในโรงงาน และระบบการตรวจสภาพเครื่องจักรและซ่อมบำรุงเครื่องจักร
โดยหลายประเทศทั่วโลกได้ทดลองนำ เทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อเป็นต้นแบบการใช้งาน (Use cases) เช่น การเชื่อมต่อเทคโนโลยี 5G กับหุ่นยนต์อุตสาหกรรมในระบบอัตโนมัติของโรงงานสามารถเพิ่มผลผลิต (Productivity) ได้กว่า 10% การตรวจสอบคุณภาพสินค้าระหว่างการผลิตของโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G กับระบบการตรวจสอบคุณภาพสินค้าผ่านการถ่ายภาพของกล้องตรวจจับและการประมวลผลในระบบ Cloud ที่สามารถคัดแยกสินค้าที่มีข้อบกพร่องได้ทันที โดยมีความแม่นยำสูงถึง 99.96% ทำงานได้เร็วขึ้นถึง 30 เท่า และการควบคุมการทำงานของเครื่องจักรในการทำเหมืองใต้ดิน ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงอันตรายผ่านการตรวจสอบและควบคุมระยะไกล จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับพนักงาน รวมถึงการตรวจจับความผิดปกติของสภาพแวดล้อมภายในโรงงานผลิตเหล็กผ่านระบบเซนเซอร์และกล้องตรวจจับที่สามารถแจ้งเตือนความผิดปกติของอุณหภูมิและความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ทันที ซึ่งสามารถช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้ถึง 30% อีกทั้ง ยังสามารถลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและลดความเสียหายในกรณีที่การผลิตหยุดชะงักได้
อ้างอิงจาก : การวิเคราะห์โดย EIC จากข้อมูลของ GSMA, PwC และ Manufacturing Institute
โดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต สามารถสรุปได้ ดังนี้
- การรวบรวมและประมวลผลข้อมูล
การติดตามกระบวนการผลิตได้อย่างละเอียดในทันที ซึ่งสามารถวิเคราะห์ข้อมูลการผลิตและระบุปัญหาได้อย่างแม่นยำ ด้วยการนำเทคโนโลยีอย่าง ระบบ Automation, IoT, Cloud มาประยุกต์ใช้ เป็นต้น
- การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
เทคโนโลยี 5G ช่วยลดระยะเวลาในการผลิตได้ เนื่องจากสามารถปรับเปลี่ยนสายการผลิตได้ทันทีตามที่ต้องการ อีกทั้งยังช่วยแยกสินค้าที่มีข้อบกพร่องได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
- การบริหารจัดการภายในองค์กร
ช่วยลดระยะเวลาในการค้นหาทรัพย์สินในโรงงาน สามารถนำเทคโนโลยีอย่าง VR เข้ามาช่วยฝึกปฏิบัติงาน
- ความปลอดภัย
สามารถควบคุมเครื่องจักรกลได้จากระยะไกลสามารถตรวจจับการทำงานที่ผิดปกติของเครื่องจักรกลได้
วิธีก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้ด้วยเทคโนโลยี 5G
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 4.0 จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกขององค์กร เพื่อสร้างแผนการดำเนินงานให้เป็นระบบพร้อมขั้นตอนและผลลัพธ์ ด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆที่นำมาประยุกต์ใช้ไม่ว่าจะเป็น IoT (Internet of Things), หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อยกระดับกระบวนการทำงานไปอีกขั้น
ผสานเทคโนโลยีเข้ากับการดำเนินงานในแต่ละวัน (Integrating Technology Into Day-to-Day Operations)
ประเด็นที่น่าสนใจเมื่ออุตสาหกรรมการผลิต ต้องการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบดิจิทัล คือ
“เทคโนโลยีสามารถประยุกต์ใช้กับการดำเนินงานในแต่ละวันได้อย่างไร ?”
ในการดำเนินกิจการแบบใหม่ด้วย Digital strategy คือการทำ Business strategy ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้ในองค์กร รวมเข้ากับกลยุทธ์การปฏิบัติการ (Operation strategy) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติการ และพนักงานในสายการผลิตจะต้องเห็นด้วยกับ Digital Solutions นี้ รวมไปถึงการพูดคุยหารือเกี่ยวกับการปรับใช้โซลูชันที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำงานประจำวันง่ายขึ้นอย่างมาก
การนำศักยภาพของ Industry 4.0 มาใช้จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานผลิตในทุกด้าน ซึ่งครอบคลุม วิศวกรรมกระบวนการผลิต ระบบการผลิต มาตรฐานคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การบำรุงรักษา ความปลอดภัยของพนักงาน คลังสินค้า การบริการหลังการขาย และความยั่งยืน ของเทคโนโลยีจะช่วยให้สามารถนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ในขณะที่การดำเนินงานยังคงมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีต้นทุนที่ต่ำลง
ในการเริ่มต้นนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้กับผู้ปฏิบัติงานสิ่งแรกที่ต้องมุ่งเน้น คือ ข้อมูลในการดำเนินงานต้องเข้าถึงได้ จึงจะทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถนำข้อมูลเชิงลึกมาวิเคราะห์ปัญหาแก้ไข และปรับปรุงข้อผิดพลาดต่าง ๆ ได้

โดยกุญแจสำคัญ คือ การทำให้ความรู้และข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นพร้อมสำหรับผู้ปฏิบัติงานในองค์กร ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่าง Real-Time โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติงานในส่วนการผลิต เพื่อแก้ไขปัญหาการทำงานในแต่ละวัน ด้วยข้อมูลพื้นฐานที่พร้อมใช้งานนี้ ผู้ผลิตจะสามารถสร้างโซลูชั่นที่ผสานเข้ากับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลและการวิเคราะห์บน Cloud, AI หรือ Machine Learning
มีผู้ผลิตจำนวนมากทั่วโลกกำลังพยายามหาDigital Solution ต่างๆ เพื่อประยุกต์ใช้กับโรงงานผลิตตลอดจนการเปลี่ยนเป็น “โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory)” ซึ่งมีการติดตั้งเซ็นเซอร์ขั้นสูง หุ่นยนต์และซอร์ฟแวร์ต่าง ๆ ที่สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อความสามารถในการตัดสินใจได้ดีขึ้น
Industrial IoT Solutions จาก DENSO
แนวทางใหม่สำหรับการเชื่อมต่อข้อมูลอัจฉริยะ

อนาคตแห่งการผลิตที่ถูกบูรณาการด้วยแนวคิด Industry 4.0 เชื่อมต่อกับ IoT เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ บริษัท สุมิพล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Sumipol Corporation Limited) จึงคัดสรร DENSO IoT Solutions ที่จะทำให้การเชื่อมต่อระบบ IoT ง่ายขึ้น ปลอดภัย และได้มาตรฐาน ลดการเขียนโปรแกรม เพียงตั้งค่าเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์อัตโนมัติทั้งของเดิมที่มีอยู่ ไปจนถึงอุปกรณ์ล้ำสมัย เพื่อเป็นตัวช่วยให้ผู้ผลิตมุ่งหน้าสู่ Smart Factory ได้อย่างรวดเร็ว ไร้กังวล พัฒนาระบบการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ

เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อัตโนมัติต่าง ๆ ผ่านฟังก์ชันสำเร็จรูป
Denso IoT Products
เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อัตโนมัติภายในโรงงาน ผ่านฟังก์ชันสำเร็จรูป ทำการรวบรวมข้อมูล ประมวลผล บันทึก แจ้ง เผยแพร่ วิเคราะห์ และแสดงภาพ ช่วยจัดการข้อมูลตั้งแต่ ระบบหน่วยการผลิต ไปจนถึงสายการผลิต โรงงาน และระบบคลาวด์ (Cloud)
- ดึงศักยภาพสูงสุดของเครื่องจักร สามารถประมวลผลข้อมูลเชิงลึก จาก PLC, robot, camera, etc. (Digital / Analog) ได้หลายอุปกรณ์พร้อมกัน
- วิเคราะห์ข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา รวบรวมข้อมูล ประมวลผล บันทึก แจ้ง เผยแพร่ วิเคราะห์ และแสดงผลข้อมูลแบบ Real-Time สามารถเก็บข้อมูลเป็นประวัติไว้ดูย้อนหลังได้
- ปรับปรุงพัฒนาสายการผลิตจากข้อมูล ช่วยจัดการข้อมูลตั้งแต่ ระดับหน่วยการผลิต ไปจนถึงสายการผลิต โรงงาน และระบบคลาวด์ (Cloud)
ครบองค์ประกอบ ตั้งแต่การรวมข้อมูลไปจนถึงการแสดงผล ด้วยไลน์อัพผลิตภัณฑ์ IoT Solutions

IoT Data Server อุปกรณ์ตัวกลางในการสื่อสาร
IoT Data Server 1 เครื่องสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในสายการผลิตได้หลายอุปกรณ์ โดยผ่านระบบเครือข่าย Internet ทั้งรูปแบบ Wireless และ Wire ด้วย คอมพิวเตอร์อุตสาหกรรมที่มีความน่าเชื่อถือสูง ติดตั้งและดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับฟังก์ชั่นการรวมข้อมูล (IoT Data Share) และฟังก์ชั่นการแสดงผล Dashboard (IoT Data View) ในตัวโดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม ควบคุมการรวมข้อมูลจำนวนมากจากหลายแหล่งในโรงงานเข้าไว้ในที่เดียว

IoT Data Share ซอฟต์แวร์การรวมข้อมูล
ซอฟต์แวร์สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์อัตโนมัติจำนวนมากเข้าด้วยกัน เพื่อรวบรวม ประมวล และบันทึกผลข้อมูล โดยการใช้งานฟังก์ชันสำเร็จรูปผ่านเทคโนโลยี ORiN ไม่ต้องเขียนโปรแกรมใหม่
เทคโนโลยี ORiN คือ ซอฟต์แวร์กลาง หรือ Middleware สำหรับ IT ในโรงงานที่ถูกกำหนดขึ้นโดย ORiN Consortium ที่ช่วยให้การสื่อสารระหว่างหุ่นยนต์อุตสาหกรรม, PLC, เครื่อง CNC และอื่น ๆ จากผู้ผลิตเครื่องจักรต่างแบรนด์ สามารถเชื่อมต่อเข้าด้วยกันได้ สามารถรองรับภาษาพื้นฐาน เช่น C#, C++, Visual Basic, LabView, Java และอื่น ๆ ในการพัฒนา ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมข้อมูลและควบคุมเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านคอมพิวเตอร์อุตสาหกรรม (Industrial Computer) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ซ้ำของวอฟต์แวร์, การซ่อมบำรุง และลดเวลาที่ใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ลง

IoT Data View โปรแกรมแสดงผลหน้าจอแบบเรียลไทม์
โปรแกรมแสดงผลข้อมูล Visualization แบบ Real-Time ซึ่งทำงานร่วมกับ IoT Data Share สามารถเข้าโปรแกรมผ่านเว็บเบราว์เซอร์ที่รองรับ เช่น Google Chrome, Microsoft Edge หรือ IE-11 เพื่อแสดงผลภาพของข้อมูลที่รวบรวมมาในรูปแบบที่ต้องการ เช่น กราฟ และ Label โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมบนอุปกรณ์แสดงผลต่าง ๆ เช่น Desktop PC, Laptop, หรือ Smart TV

ยังมีเครื่องมือต่าง ๆ มากมายที่เป็นตัวกำหนดรูปแบบการผลิตซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุค 4.0 นี้ จากที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงกรณีของการนำเทคโนโลยีและโซลูชันการทำงานไปปรับใช้ในหน่วยงานหรือองค์กรที่มีความเข้ากัน ในปัจจุบันเทคโนโลยียังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องและผู้ให้บริการเริ่มนำเสนอโซลูเฉพาะด้านอุตสาหกรรมมากขึ้น ในขณะที่การยอมรับการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ยังไม่แพร่หลายมากนัก แต่ในอนาคตเราจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในการนำเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0 มาใช้เป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ประโยชน์อีกมากมายที่คาดว่าจะได้รับจากการใช้งานอื่นๆ ตัวอย่างเช่น ประโยชน์จากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การบูรณาการห่วงโซ่อุปทาน เป็นต้น โดยอุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ๆ ในโรงงานอุตสาหกรรม จะถูกขับเคลื่อนด้วย 5G เพื่อช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่เมื่อก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0

สรุป
ในสายการผลิตอัจฉริยะ การควบคุมระยะไกลโดยใช้ 5G และคลาวด์ (Cloud) ช่วยเปลี่ยนวิธีการทำงานของผู้คนโดยสิ้นเชิง การผลิตรถยนต์ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นำข้อได้เปรียบของ 5G ที่มีแบนด์วิดท์สูง (Bandwidth) ความหน่วงต่ำและมีความคล่องตัวมาใช้ และการทำงานจากระยะไกลทำให้บริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์สามารถปรับปรุงสภาพแวดล้อมและประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ต้นทุนแรงงานลดลงอย่างมหาศาล
ซึ่งเทคโนโลยี 5G จะเข้ามามีบทบาทในภาคอุตสาหกรรมการผลิตเพิ่มมากขึ้นและเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจในอนาคต ดังนั้น ผู้ประกอบการอาจต้องเร่งปรับตัวและเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรม พร้อมมีแผนรับรองในเรื่องของแรงงานทักษะ Upskill, Re-Skill ด้านทักษะดิจิทัลให้กับองค์กรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านอุตสาหกรรม เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและพัฒนาทักษะปลดล็อกประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี 5G ได้อย่างไร้ขีดจำกัด
บริการด้าน IoT AUTOMATION SOLUTION และการปรับปรุงไลน์การผลิตจากสุมิพล
สุมิพล คอร์ปอเรชั่น พร้อมให้คำปรึกษาในงานออโตเมชั่น อุปกรณ์ IoT หรือ IoT Architecture สำหรับการทำงานในโรงงาน หรือเปลี่ยนโรงงานให้กลายเป็น Smart Factory IoT รวมไปถึงการวินิจฉัยไลน์การผลิตจากหน้างานจริง เพื่อพัฒนาวางแผนปรับปรุง และแนะนำเครื่องมือที่เหมาะสมกับการผลิต
พร้อมพัฒนาปรับปรุงเพิ่มศักยภาพกระบวนการผลิตเดิมของท่าน ให้ครอบคลุมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและครบวงจรในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้พร้อมให้บริการอย่างเต็มที่
สนใจเกี่ยวกับข้อมูลของสินค้าหรือบริการเพิ่มเติม
สามารถพูดคุย วิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้นกับผู้เชี่ยวชาญของสุมิพลได้โดยตรง
สามารถติดต่อได้ ที่นี่ หรือ Call Center 02-7623000