
การกำหนดและตรวจสอบความลึกของชิ้นงาน เป็นสิ่งสำคัญมากในอุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะการผลิตชิ้นส่วนประกอบ ซึ่งต้องมีรูปร่างและขนาดที่สัมพันธ์กันทุกส่วน เพื่อให้สามารถประกอบกันได้อย่างพอดี ไม่คลาดเคลื่อน
“Depth gauge” จึงมีบทบาทสำคัญอย่างขาดไม่ได้เป็นหนึ่งใน 5 เครื่องมือวัดพื้นฐานที่ควรมีในภาคอุตสาหกรรม
บทความนี้จะนำคุณไปรู้จักกับ เครื่องมือวัดความลึกสำหรับใช้ในกระบวนการผลิต การใช้งานเบื้องต้น ลักษณะ ประเภท และวิธีเลือกเกจวัดความลึกให้เหมาะกับการใช้งาน
DEPTH GAUGE คืออะไร?
Depth Gauge หรือ เกจวัดความลึก เป็นเครื่องมือวัดที่มีความแม่นยำ สำหรับวัดความลึกของรูเจาะ รูคว้าน รูน็อต ความลึกของบ่างาน ร่องลึกต่างระดับ ความเว้าของช่อง และความสูงของชิ้นส่วนอุปกรณ์
ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญเกือบทุกประเภท ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องมือ แม่พิมพ์ ไปจนถึงเครื่องมือผ่าตัดและเซรามิก
โดยในปัจจุบันมีให้เลือกใช้ทั้งแบบดิจิตอลที่แสดงค่าจากการวัดออกมาได้โดยที่ไม่ต้องคำนวณค่าและแบบอนาล็อก
ลักษณะของเกจวัดความลึก
เกจวัดความลึก แต่ละประเภทจะมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญ 3 ส่วน คือ
- ส่วนฐาน หรือ สะพานยัน (ฺBase) เพื่อวางเกจวัดความลึกบนพื้นผิวของชิ้นส่วนที่กำลังวัด
- ส่วนเลื่อน หรือ แกนวัดลึก (Measuring Rod) ส่วนที่ใส่ลงไปในรู/ช่อง เพื่อเลื่อนวัดความลึกของชิ้นงาน อาจมีลักษณะเป็นแท่งวัด หรือเป็นใบแบบไม้บรรทัด
- ส่วนแสดงผลค่าความลึก ไม่ว่าจะเป็นหน้าปัดไดอัล จอ LCD แสดงผลแบบดิจิตอล สเกลเวอร์เนียร์ หรือ ไมโครมิเตอร์
วิธีการใช้งาน DEPTH GAUGE
ขั้นตอนการใช้เกจวัดความลึก
- วาง Depth Gauge บนพื้นผิวเรียบหรือแท่นระดับ แล้วเซ็ตศูนย์
- เลื่อนแกนวัดลึกให้มีความยาวน้อยกว่าความลึกที่จะวัดเล็กน้อย
- วางฐานสะพานยันลงมาจนผิวแนบงานสัมผัสสัมผัสพอดีกับบ่างาน
- ค่อยๆ เลื่อนแกนวัดลึกลงมาสัมผัสกับก้นรู และล็อคสกรูล็อค
- อ่านค่าความลึกของรู
และเพื่อให้ได้ค่าความลึกที่ถูกต้อง ควรปฏิบัติตามกฎพื้นฐาน ดังนี้:
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าฐาน หรือ สะพานยัน (ฺBase) ส่วนที่สัมผัสกับชิ้นงานนั้นสะอาด เรียบ และไม่มีรอยบุบหรือเสี้ยน
- ระมัดระวังการสัมผัสของสะพานยันให้ราบไปกับผิวของชิ้นงาน และไม่ให้สัมผัสกันรุนแรงหรือแน่นเกินไป
ซึ่งจะทำให้ผิวสัมผัสงานเสียหายได้ - ควรทำการวัดซ้ำ 2-3 ครั้ง เพื่อให้ได้ค่าที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด
ประเภทของเกจวัดความลึก
เกจวัดความลึกมีหลายรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งประเภทหลักที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม ได้แก่
Vernier depth gauges – เวอร์เนียร์วัดลึก

เวอร์เนียร์วัดลึก เป็นเกจวัดความลึกที่ใช้สเกลเวอร์เนียร์ การใช้งานเช่นเดียวกับการใช้เวอร์เนียร์คาลิปเปอร์ แตกต่างกันที่เวอร์เนียร์วัดลึก สเกลหลักจะเป็นตัวเลื่อนขึ้น-ลง ผ่านฐาน ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถอ่านค่าความลึกโดยตรงจากสเกลเวอร์เนียร์ที่อยู่บนฐานได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
อ่านเพิ่ม : วิธีการอ่านค่าผลการวัดเครื่องมือในระบบสเกล
ปลายวัดมีหลายรูปทรงให้เลือกใช้ มีช่วงการวัดที่กว้างโดยไม่ต้องใช้แท่งต่อขยายเมื่อเปรียบเทียบกับไมโครมิเตอร์ความลึก แต่ที่ส่วนเลื่อนของเวอร์เนียร์วัดลึก มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ไม่เหมาะสำหรับการวัดรูขนาดเล็ก

การวัดด้วยเวอร์เนียร์วัดลึก ให้ความสะดวกรวดเร็ว มีค่าผิดพลาดน้อย และได้ค่าวัดที่ละเอียดปานกลาง มีความคล่องตัวกว่าไมโครมิเตอร์วัดลึก เนื่องจากไมโครมิเตอร์วัดลึกอ่านค่ายาก และที่สำคัญมีราคาสูงกว่า
ค่าความละเอียด
- ประเภทอนาล็อก (Analog) 0.02 mm
- ประเภทดิจิตอล (Digital) 0.01 mm
Dial depth gauges – ไดอัลเกจวัดลึก

ไดอัลเกจวัดลึก มีลักษณะเป็นหน้าปัดแบบไดอัล ต่อกับสะพานยันและแกนวัดลึก สามารถอ่านค่าได้โดยตรง และใช้หลักการเดียวกันกับการอ่านไดอัลอินดิเคเตอร์ทั่วไป
แกนวัดลึกเป็นแบบแท่งเคลื่อนที่ขึ้น-ลง แบบลูกสูบ มีก้านต่อขยาย (Extension rod) ใช้สำหรับหลุมลึกและช่วงการวัดที่กว้างขึ้น
ค่าความละเอียด
- ประเภทอนาล็อก (Analog) 0.01 mm
- ประเภทดิจิตอล (Digital) 0.001 mm
การวัดความลึกที่มีช่วงการวัดมากกว่า 25 มม.
ให้เพิ่มจำนวน Extension rod ให้เหมาะสมตามความลึกที่ต้องการวัด
ควรใช้ Master gage เช่น เกจบล็อค เพื่อดำเนินการ ปรับค่าศูนย์ (Set Zero) ใหม่
กรณีที่ต่อก้านเพิ่ม การอ่านค่าที่ได้จะต้องบวกรวมกับค่าความยาวของก้านวัดลึกที่เลือกใช้ด้วย

Depth micrometers – ไมโครมิเตอร์วัดลึก

ไมโครมิเตอร์วัดลึก เป็นเกจวัดความลึกที่ใช้ Spindle ของไมโครมิเตอร์ เป็นแกนวัดลึก ช่วยให้สามารถใส่ในรูเล็กได้ ถ้าเปรียบกับเวอร์เนียร์วัดลึกแล้ว ไมโครมิเตอร์วัดลึกจะให้ค่าวัดละเอียดถูกต้องสูงกว่า

แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงการวัดของแกนวัดนั้นมีจำกัด ดังนั้นสำหรับรูลึก จึงจำเป็นต้องมีการต่อขยาย และปรับเทียบด้วย Master gauge เช่น เกจบล็อค หรือ Depth Micro Checker
เมื่อใช้ส่วนต่อขยาย ต้องอย่าลืมเพิ่มความยาวของส่วนต่อขยายให้กับค่าการวัดที่แสดงบนไมโครมิเตอร์เสมอ
ค่าความละเอียด
- ประเภทอนาล็อก (Analog) 0.01 mm
- ประเภทดิจิตอล (Digital) มีค่าความละเอียด 0.001 mm
Digital Depth Gauges – เกจวัดความลึกแบบดิจิตอล
ปัจจุบันโรงงานผลิตหลายแห่งเริ่มใช้อุปกรณ์วัดแบบดิจิตอลเพื่อทำให้ง่ายสำหรับคนงาน ซึ่งขาดความสามารถในการอ่านค่าการวัดละเอียดอย่างรวดเร็วจากไมโครมิเตอร์ หรือสเกลต่างๆ
เกจวัดความลึกแบบดิจิตอล จึงป็นรุ่นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสามารถวัดค่าได้ง่าย แม้ว่าจะเป็นผู้ใช้งานมือใหม่ มีความแม่นยำสูง อ่านค่าได้ละเอียดถึง 0.001 mm

มีลักษณะเหมือนเกจวัดความลึกแบบอนาล็อกรุ่นต่างๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้น แต่เปลี่ยนส่วนแสดงผลเป็นจอแสดงผลแบบดิจิตอล แสดงค่าความลึกที่วัดได้โดยตรง
- เหมาะสำหรับวัดความลึกของรู ร่องแคบ และวัดเป็นขั้นบันได
- แบบดิจตอลอ่านค่าง่าย ลดการผิดพลาดจากการอ่านแบบสเกล
- สามารถส่งข้อมูลการวัดสู่คอมพิวเตอร์ด้วยอุปกรณ์เสริม
7 คุณสมบัติสำคัญในการเลือก Depth Gauge
หลักการเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสม เพื่อวัดความลึกของชิ้นงาน มี 7 ประการที่ควรพิจารณาคุณสมบัติบางอย่างอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทหรือรุ่นของเกจวัดความลึกนั้น
- ความยาวฐาน (Base length) – ขนาดของฐาน ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้วางทาบบนผิวงาน ให้ตัวเกจวัดลึกตั้งได้ฉากกับผิวงาน และแสดงถึงระนาบอ้างอิงสำหรับการวัด
- จำนวนก้านต่อความยาว (Measuring rod count) – เกจวัดความลึกบางรุ่นมีก้านแบบถอดเปลี่ยนได้หลายอัน สำหรับใช้เครื่องมือวัด ในช่วงความลึกของช่องที่กว้างขึ้น การเลือกก้านต่อ สอดคล้องกับความลึกโดยประมาณ ของช่องที่กำลังจะวัด
- ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของก้านวัด (Measuring rod diameter) – เป็นตัวบอกขนาดของก้านวัด (measuring rod) ซึ่งต้องเลือกขนาดที่สามารถใส่เข้าไปในช่องที่จะวัดได้ สำหรับบรรทัดวัดลึก และเกจวัดความลึกประเภทอื่นๆ ที่ใช้ขีดบรรทัด หรือสเกล ให้ดูที่ขนาดของความกว้างและความหนาของแผ่นสเกล เพื่อประกอบการพิจารณา
- ความลึกในการวัดสูงสุด (Maximum measurement depth) – แสดงถึงค่าความลึกที่มากที่สุดที่เครื่องมือสามารถวัดได้ สำหรับเกจที่มีก้านแบบเปลี่ยนได้ ค่านี้อาจแตกต่างกันอย่างมาก ขึ้นอยู่กับก้านที่เลือกมาใช้งาน
- ค่าความละเอียด (Resolution / Graduation) – ค่าความละเอียดที่อ่านได้จากเครื่องมือวัดความลึก เช่น 0.05 0.02 0.1 หรือ 0.001 mm. ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประเภทและรุ่นของเกจที่เลือก
- ช่วงการวัด (Measuring range) – ระยะความลึกต่ำสุด-สูงสุด ที่อุปกรณ์นั้นสามารถวัดได้
- หน่วยการวัด (Measurement scale) – เกจวัดความลึกโดยทั่วไป อ่านค่าเป็นนิ้ว (inch) หรือมิลลิเมตร (millimeter) บางรุ่นที่มีทั้งสองแบบ สามารถเลือกเปลี่ยนหน่วยการวัดได้
สรุป
Depth gauge ใช้วัดและตรวจสอบความลึกของชิ้นงานที่ผลิต ทำให้สามารถผลิตชิ้นงานออกมาได้ถูกต้อง มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน แก้ปัญหาชิ้นงานเสีย (Defect) ที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต
ทั้งนี้ในงานอุตสาหกรรม ควรเลือกเครื่องมือวัดความลึกที่สามารถเชื่อมโยงค่าการวัดกับระบบการผลิตได้ เมื่อมีค่าความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย ระบบการผลิตก็จะแก้ไขและปรับการทำงานโดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งยังช่วยลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี ส่งผลต่อความได้เปรียบในการแข่งขันของอุตสาหกรรมการผลิตที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
ถ้าคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอุปกรณ์การวัด หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ คุณสามารถติดต่อเราได้ที่นี่ ด้วยบริการให้คำปรึกษาจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค เครื่องมือ และเครื่องจักรกลคุณภาพสูง พร้อมให้บริการกับคุณอย่างเต็มที่
บริการด้านการวัดจากสุมิพล
สุมิพลให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเครื่องมือวัดแบรนด์ Mitutoyo ที่เหมาะสมกับโจทย์การผลิตและงบประมาณของลูกค้า พร้อมนำเสนอโซลูชั่นที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรกล ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เข้ากับระบบควบคุมการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของกระบวนการผลิตให้สูงขึ้น
ถ้าคุณสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของสินค้าหรือบริการจากเรา คุณสามารถติดต่อเราได้ที่นี่ หรือ Call Center 02-7623000 เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและเครื่องมือที่พร้อมให้บริการกับคุณอย่างเต็มที่